ทีแรกก็ทำเป็นขึงขังขีดเส้นตีกรอบว่า จะต้องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกกระทรวงให้เสร็จสิ้น ตอนต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งๆที่ความจริงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบร้อนขนาดนั้น เพราะกว่าจะถึงวันที่มีผลให้รับตำแหน่งใหม่ก็ต้องวันที่ 1 ตุลาคม 2549 โน่น

อีกอย่างการเลือก คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ก็ยังไม่สำเร็จสมบูรณ์ ถึงมีมติ ครม.แต่งตั้งข้าราชการออกมาก็ต้องแขวนไว้รอรับความเห็นชอบจาก กกต. ชุดใหม่อยู่ดี

นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ โผมหาดไทย ชะงักงันมา 2 สัปดาห์แล้วไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะดึงดันเอาเข้าอีกหรือเปล่า

เอ่ยถึงมหาดไทยในปีนี้มีคนเกษียณเยอะเหมือนทุกปี นับตั้งแต่ นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวง ตามด้วย นายรัชทิน ศยามานนท์ รองปลัดกระทรวง

ผู้ตรวจราชการกระทรวง 3 คนคือ นายเชนทร์ วิพัฒน์บวรวงศ์ นายศิริวัฒน์ ศรีตระกูล และ นายกมล จิตระวัง กับนักปกครอง 10 อีกคนคือ นายวิชชา ประสานเกลียว

ส่วน ผู้ว่าราชการจังหวัด มีเกษียณไป 10 ราย ได้แก่ นายวิทยา ปิณฑะแพทย์ ผวจ.พะเยา นางจุฑามาศ ประทีปะวณิช ผวจ.สิงห์บุรี นายทรงพล ทิมาศาสตร์ ผวจ.สุพรรณบุรี นายนพพร จันทรถง ผวจ.ร้อยเอ็ด นายนิคม เกิดขันหมาก ผวจ.นครพนม นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ยะลา นายประสาท พงษ์ศิวาภัย ผวจ.นครปฐม นายพิสิฐ เกตุผาสุข ผวจ.ชลบุรี นายวิจิตร วิชัยสาร ผวจ.สุราษฎร์ธานี และ นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผวจ.ภูเก็ต

ทั้งหมดนี้ยังมีเวลาทำงานไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2549

จากนั้นก็เป็นวาระของคนที่ได้รับการแต่งตั้งทดแทน ซึ่งกำลังก้าวไปสู่บรรยากาศของการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่พอดี ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ตามกำหนด หรือจะเลื่อนไปอีกเดือนสองเดือนตามความเหมาะสม

เนื่องจากตำแหน่งสำคัญในมหาดไทยนับตั้งแต่ ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงไปจนถึง ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ล้วนแต่เป็นตำแหน่งที่มีผลต่อการเลือกตั้งทั้งสิ้น

จึงต้องจับตามองกันเป็นพิเศษว่าจะมีรายการวางตัวคน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลบ้างหรือไม่

หรือเป็นการปูนบำเหน็จตอบแทนข้าราชการที่ยอมลดตัวลงเป็นข้าช่วงใช้โดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรี แห่งความเป็นข้าราชการพลเรือนบ้างหรือไม่

อย่างเช่นตำแหน่ง อธิบดีกรมการปกครอง ที่คุมปลัดจังหวัด และนายอำเภอโดยตรง ตอนนี้มีข่าวว่าโดนเขย่าเก้าอี้อย่างหนัก

ทั้งๆที่ผู้ดำรงตำแหน่งก็ยังไม่เกษียณและมีผลงานเป็นที่น่าพอใจ สำหรับประชาชนและข้าราชการในกรมเป็นอย่างดี แต่จะถูกอกถูกใจฝ่ายการเมืองหรือไม่ไม่รู้ได้

ตรงจุดนี้ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจริงอย่างที่เป็นข่าวก็เป็นหน้าที่ของ กกต.ชุดใหม่ จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะให้ความเห็นชอบ.

“ซี.12”